วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2555

มาชเมลล์โล่ว์ ยุบหนอพองหนอ




    ในปัจจุบันนี้นับว่าการเรียนการสอนในห้องเรียนนั้น สื่อการสอนของครูผู้สอน มีผลต่อการเรียนรู้และจดจำในบทเรียนได้ดีทีเดียว ถ้าในโรงเรียนมีสื่อและอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการเรียนรู้ในแต่ละเรื่องไว้ก็คงจะดีไม่น้อย แต่หากมองในทางกลับกันในชนบทหรือโรงเรียนที่ไม่มีความพร้อมทางสื่อและอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การทดลองหรือสื่อประกอบการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ทำมือ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญและครูผู้สอนสามารถนำวัสดุที่หาง่ายมาประยุกต์ใช้เป็นสื่อการสอนโดยไม่ต้องไปสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและสื่อเหล่านี้อาจทำให้นักเรียนเข้าใจในบทเรียนมากยิ่งขึ้น 

     และเมื่อเราคิดย้อนไปช่วงชีวิตตอนเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย การเรียนในห้องเรียนโดยใช้แค่ทฤษฏีอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เราเข้าใจและเห็นภาพได้ทุกเรื่อง ถ้าหากในห้องเรียนมีสื่อการเรียนที่ทำให้เด็กได้เห็นภาพ ได้ทดลองด้วยตนเองจะเสริมให้เข้าใจและสนุกไปกับการเรียน



 กลุ่มของแก้มได้ผลิดสื่อการเรียนเกี่ยวกับวิชา ฟิสิกส์ เรื่องความดัน หากเราเรียนรู้แค่ทฤษฏีว่า ความดัน คือแรงที่กระทำต่อพื้นที่ ก็ไม่สามารถเข้าใจได้ สื่อเรื่อง แรงดัน "ยุบหนอพองหนอ" ถือว่าสามารถทำให้นักเรียนเข้าใจและเห็นความเปลี่ยนแปลงของความดัน และเห็นถึง สิ่งที่ตามมาเมื่อความดันเปลี่ยนแปลง 

สิ่งที่ประทับใจจากการทำสื่อครั้งนี้ ทางกลุ่มได้ดัดแปลงอุปกรณ์การทดลอง จากการเรียนรู้ด้วยตนเองว่าอุปกรณ์ที่เลือกมาเหมาะสมกับการทดลองหรือไม่ ซึ่งทางกลุ่มไม่มีเครื่องดูดอากาศ แต่ทางกลุ่มได้ประยุกต์นำวาล์วออกซิเจนของตู้ปลามาใช้ ซึ่งได้ผลดีทีเดียว 

        อุปกรณ์ชุดนี้ช่วยอธิบายถึงเรื่องแรงดันอากาศ คือ ถ้าเราดึงลูกสูบดูดอากาศออกนอกขวดแรงดันอากาศภายในขวดจะลดลง แรงดันอากาศภายในมาชเมลโล่จะเพิ่มขึ้น จึงทำให้มาชเมลโล่ขยายตัว แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราปั๊มอากาศเข้าไปในขวดแก้วจะทำให้แรงดันอากาศภายในขวดแก้วมากกว่าในมาชเมลโล่แรงดันอากาศในขวดแก้วจะดันให้มาชเมลโล่เล็กลง

ผลจากการดูดอากาศและปั๊มอากาศเข้าไปในขวด
จากการทดลองเรื่องนี้ สามารถทำให้ผู้เรียนเข้าใจถึงหลักการของความดัน และผู้เรียนก็จะสนุกไปกับการเรียนมากยิ่งขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

มัธยมศึกษา แหล่งการศึกษาของเด็กไทย



          กลับมาอีกครั้งค่ะ หลังจากที่ห่างหายไปนาน ด้วยภาระและหน้าที่อันมากมายที่ต้อจัดการเมื่อไม่นานมานี้แก้มได้เดินทางไปโรงเรียนแอ็ดเวนตีส เอกมัย แค่ได้ยินชื่อโรงเรียนก็เดากันไม่ยากว่า โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ที่ไหน ใช่แล้วค่ะ ตั้งอยู่ย่านสุขุมวิท-เอกมัย แก้มได้เดินทาง
ไปดูการใช้สื่อการสอนเมื่อได้เดินทางไปถึงโรงเรียน ภายในโรงเรียนจะแบ่งเป็นฝั่งนานาชาติ และ ฝั่งไทย 

บรรยากาศภายในโรงเรียนเป็นโรงเรียนเล็กๆบรรยากาศนอกห้องเรียนดูเงียบๆ แต่เมื่อเราได้เข้าไปในห้องเรียน   บรรยากาศชั่งแตกต่างจากนอกห้องเรียนเหลือเกินในขณะที่ครูกำลังสอนหนังสือเสียงเด็กๆพูดคุยกัน ส่งเสียงดัง บางคนก็เล่นเกม บางคนก็จับกลุ่มพูดคุยกัน บางคนก็เดินเข้าออกห้องเรียนซึ่งทำให้ แก้มคิดว่าในอนาคตที่เราจะต้องไปประกอบอาชีพครู ถ้าเจอเด็กแบบนี้เราจะไหวหรือไม่เราจะทำยังไงดีการเดินทางไปโรงเรียนครั้งนี้ทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ

 และสถานการณ์ที่ไม่เคยพบเจอให้แก้มได้เห็น ซึ่งอาจจะทำให้เราได้
นำไปปรับใช้ในอนาคตข้างหน้า

       ในคาบวิชาชีววิทยาครูผู้สอนได้ใช้สื่อการสอน  power point สอนในเรื่องของสัตว์เซลล์เดียว ซึ่งมีภาพประกอบที่มีสีสันสวยงาม และ มีการให้นักเรียน ชม VDO การเคลื่อนไหวของสัตว์เซลล์เดียว ซึ่งเป็นที่น่าสนใจของเด็กๆมาก

เครื่องอัดไฮดรอริก
นอกจากนั้นแล้วภายใน
ห้องเรียนก็ยังมีสื่อการสอนที่เป็นอุปกรณ์ทดลองที่แปลกๆที่ตอนสมัยแก้มอยู่มัธยมปลายไม่
เคยเจอแต่projector  ของทางโรงเรียนก็จะไม่ค่อยสมบูรณ์ทำให้ภาพและสื่อการสอนที่คุณครูเตรียมมาสื่อออกมาไม่เต็มที่ แต่จากการที่ได้ไปสังเกตการใช้สื่อถือได้ว่าคุณครูมีการเตรียมการสอนและมีสื่อที่สามารถดึงดูดความสนใจของเด็กได้ ทำให้เห็นว่าสื่อการสอนที่นอกเหนือจากการเขียนกระดานดำ สามารถทำให้เด็กจดจำและเข้าใจได้ดีกว่าการท่องจำและเรียนแค่ทฤษฏีโดยที่เด็กไม่เคยได้เห็นหรือสัมผัสของจริง


        ไม่เพียงแค่นั้นการใช้สื่อการสอนของครูผู้สอนจะประสบผลสำเร็จได้ดีนั้นเด็กนักเรียนก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สื่อประสบผลสำเร็จได้เต็มที่ หากเด็กนักเรียน ไม่มีความเกรงใจไม่เคารพครูผู้สอนการสอนก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ ฉะนั้นแล้วการจะเป็นครูที่ดีได้นั้น ไม่เพียงแต่การสอนให้เด็กครูจะต้องรู้จักวางตัวต่อเด็กนักเรียน  การพูดคุยกันระหว่างครูและนักเรียน และอื่นๆอีกหลายด้าน



             แต่การทำงานครั้งนี้ไม่ได้จบแค่นี้ค่ะ เพราะจากการพูดคุยปรึกษากันภายในกลุ่ม ยังไม่เป็นที่พอใจมากเท่าที่ควร เราก็ได้ทำการขออนุญาตไปดูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาตกลงไว้อย่างดี แต่พอถึงเวลาจริงๆกลับปฏิเสธ จนทำให้รู้สึกเสียความรู้สึกมากๆ  ทั้งร้องไห้ ทั้งเครียดและกดดัน ไม่รู้จะทำยังไงดี อาจเป็นเพราะกลัวว่างานจะออกมาไม่ดี หรืออาจเป็นเพราะเราคาดหวังไว้สูงเกินไป แต่สุดท้าย เราก็พยายามช่วยกันทำให้งานออกมาเสร็จจนได้ กว่าจะผ่านงานชิ้นนี้ไปได้ ทำให้เห็นอะไรมากมาย ทั้งน้ำใจของเพื่อน ทั้งประสบการณ์และวิธีการแก้ปัญหา สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณโรงเรียนแอ็ดเวนตีส ที่ให้โอกาสเราได้



เข้าไปดูสื่อการสอนที่ดีและขอขอบคุณอาจารย์ต้นที่ค่อยให้คำปรึกษาตลอดเลย ^^ .....

วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ตัดต่อภาพผู้อื่น ผิดกฏหมายน่ะจะบอกให้!!!





  ปดส. จับเสี่ยใหญ่ ตัดต่อภาพเปลือยอดีตแฟนสาว โพสต์ผ่านเน็ต หวังข่มขู่ให้กลับมาคืนดี

        

นาย สมพงษ์ จำปาทอง อายุ 45 ปี นักธุรกิจใหญ่ในจังหวัด

ปทุมธานี ถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด

ต่อเด็กเยาวชนและสตรี หรือ ปดส. จับกุม หลังอดีตแฟนสาววัย 

30 ปี พนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความดำเนินคดี 

เนื่องจากถูกผู้ต้องหานำภาพถ่ายไปตัดต่อให้เป็นภาพโป๊

เปลือย ก่อนนำไปโพสต์เข้าระบบอินเทอร์เน็ตภายในของ

ธนาคาร โดยข่มขู่บีบบังคับว่าหากไม่ต้องการให้โพสต์ภาพ

เพิ่มเติมอีก ต้องยอมกลับมาคืนดีด้วย


ด้านนายสมพงษ์ รับสารภาพว่า เพิ่งลงมือทำเ

เป็นครั้งแรก โดยทำไปเพราะความรัก ไม่

ต้องการเลิกลากับผู้เสียหาย แต่หลังจาก

งอนง้อสารพัดรูปแบบแล้วไม่สำเร็จ จึงตัดสิน

ใจนำภาพถ่ายของผู้เสียหายที่เคยถ่ายไว้

ด้วยโทรศัพท์มือถือไปตัดต่อ กับภาพโป๊ ก่อน

นำภาพไปเผยแพร่ เพื่อหวังข่มขู่เบื้องต้น




ตำรวจแจ้งข้อหานายสมพงษ์ ว่า ?นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มี

ลักษณะอันลามก และข้อมูลนั้นประชาชนทั่วไป อาจเข้าถึงได้และนำไปเผยแพร่หรือส่งต่อเพื่อ

แจกจ่ายหรือเพื่อการทำให้แพร่ หลาย อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ความคิดเห็น

จากเหตุการณ์ข้างต้น เกี่ยวกับการตัดต่อภาพของผู้อื่น ที่สร้างความเสียหายให้ผู้อื่นนั้น มี

ความผิด ตามพระราชบัญญติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550

มาตรา16 คือ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูล

คอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม

หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้

อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือ ได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน

สามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีที่มีการเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ต


หากภาพมีลักษณะเป็นภาพลามกอนาจาร ก็สามารถเข้าข่ายผิดกฎหมายการเผยแพร่สื่อลามก

ได้

ด้านคุณธรรมจริยธรรม ในปัจจุบันนั้นมีการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานได้



ง่าย และไม่ยากที่จะเรียนรู้วิธีการตัดต่อภาพ หรือวีดีโอของผู้อื่น ซึ่งกรณีนี้ผู้ต้องหา ได้ใช้การ


ตัดต่อภาพของผู้เสียหายไปในทางที่ไม่ดี นำรูปภาพของผู้เสียหายไปตัดต่อเป็นภาพโป๊ซึ่งเป็น


สื่อลามกอนาจารอย่างหนึ่ง ซึ่งก่อให้ผู้เสียหายนั้นเกิดความอับอายและกลัวการข่มขู่ของผู้


ต้องหา ซึ่งได้นำภาพไปเผยแพร่ ถือว่าชายคนนี้ไม่มีจิตสำนึกในความเป็นมนุษย์ ทำความเ


เดือดร้อนมาให้ผู้อื่น จนเกิดความเสียหายและอับอาย นอกจากจะไม่มีจิตสำนึกต่อตนเองแล้ว


ชายคนนี้ ใช้การข่มขู่เนื่องจากแสวงหาทุกวิถีทางให้ผู้หญิงผู้เสียหายกลับมารักกับตน ชาย

คนนี้ควรยึดทางสายกลาง ไม่ตึงเกินไปกัยเหตุการณ์ มีเกิดก็ต้องมีตาย มีรักก็ต้องมีวันหมดรัก

หากชายคนนั้นมองโลกในแง่ดี ไม่คิดวู่วามและรู้จักปล่อยวาง ใช่สติและความคิดทบทวนหา

ทางออกที่ดีที่สุดกับสิ่งที่เผชิญอยู่ เหตุการณ์ร้ายๆก็จะไม่เกิดขึ้น อย่างน้อยก็ควรทำจิตใจให้

สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน คิดถึงความดีความชั่วกับสิ่งที่กำลังจะกระทำ หากทำชั่วสิ่งไม่ดีก็ย่อมตามมา

เสมอ จากเหตุการณ์นี้ ทำให้เราเห็นว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ชายคนนี้ก็มีความผิดตาม

พรบ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 16 ไปตามความผิดที่ตนได้
กระทำไว้

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Lifestyle สบาย ๆ สไตล์ Pawee

ฮัลโหลลล สวัสดีค๊ะ^^

เจ้าของบ้านนี้ ชื่่อ นส.ปวีณ์สุดา คงเกตุ


ชื่อเล่น พ่อแม่พี่น้อง เรียก "แก้ม"

แต่เพื่อน ชอบเรียก ช้าง ชบา พยูน หมูดุด พุ่น อีพุ่น น้องพุ่น 555สารพัดชื่อเลย

แล้วแต่จะเรียกล่ะกันนนจร้าาา

ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปี 3

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภาควิชา ฟิสิกส์ (กศ.บ)

รหัสนิสิต 53102011079

เกิดวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2534 อายุก็ 21 เบาๆ ตามน้ำหนักตัว 55


ภูมิสำเนา  เป็นคนจังหวัดพัทลุง หรือที่เรียกกันติดปากว่า         "เมืองลุง" หรือ "พัด ลุง"

มีพี่น้อง 3 คน ฉันเป็นบุตรคนที่สอง

ทายสิว่าคนไหน น้องแก้ม 55555 !@#$%^&*()_)(*&^%$#@#$%^&*&^%$#$%^&*



หนูคือคนที่ใส่ชุดหมีค๊าาา55555 ครอบครัวเราน่ารักเปล่าจร้าา


แก้ม-เกด



แก้ม - กานต์
เป็นไงบ้าง โตขึ้น ลูกสาวบ้านนี้ สวยทุกคนนนน555555

โดยปกติแล้วเป็นคนร่าเริง โกรธยากหายยาก ก็เพราะอะไรที่หาย



ยากน่ะหรอ ก็โดยส่วนตัวแล้วหากใครมาทำให้โกรธหรือไม่พอใจจะ


ทำตัวเป็นคนหูหนวกตาบอดไปเพราะแคร์ความรู้สึกของคนรอบข้าง


เอาซะมากๆ หากว่าเราทำอะไรหรือพูดอะไรจะทำให้คนอื่นเสียความ


รู้สึกหรือเปล่า แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่หมดความอดทนก็จะระเบิดมันออกมา


แบบสุดๆ ใครก็เอาไม่อยู่จริงๆ ฮ่าๆๆ แต่ไม่ได้เป็นคนดุน๊าาา แค่


หน้าตามันพาไปเฉยๆ เวลาอยู่เฉยๆไม่ยิ้ม อาจจะดูดุไปหน่อย แต่


จริงๆแล้วหนูบอบบางน่ะค๊าาาาา 55555 และสิ่งที่เกลียดและไม่อยาก


เจอมากที่สุดนั้นก็คือคนเห็นแก่ตัว จะว่าไปในสังคมคนเห็นแก่ตัวก็มี


หลายรูปแบบ ฉะนั้นแล้วก็ปลงและปล่อยวาง แต่สิ่งเดียวที่คิดเสมอ


คือ อย่ามาเห็นแก่ตัวกับเรา คบเราเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ถ้าใครคิด


แบบนั้น เชิญคิวถัดไปเลยน่ะค๊าาา ไม่อยากรู้จักด้วยเลย อยู่ด้วยแล้ว


มันลำบากใจ ....คิคิ (ยิ่งหนียิ่งเจอ) 






ช่วงชีวิตในวัยมัธยมศึกษา:: จบการศึกษาจาก โรงเรียนพัทลุง 

จังหวัดพัทลุง ฉันอยู่รร.นี้มา 6ปีเต็มๆ ผูกพันกับที่นี้มาก ที่นี้สอนอะไร


ฉันหลายอย่าง ประสบการณ์ต่างๆ การได้ช่วยเหลืองามส่วนรวม 


อยากจะบอกว่าเมื่อก่อนเป็นเด็กกิจกรรมน่ะค๊าา แต่ตอนนี้ ไม่เหมือน


เมื่อก่อนเรยจิงๆTT เพื่อนสมัยมัธยมเป็นเพื่อนที่อยู่ด้วยเมื่อไหร่หรือ


แค่ได้คุยกันนิดเดียวเมื่อห่างไกลกัน มันมีความสุขมากๆๆเลยล่ะ พูด


แล้วก็คิดถึงเพื่อนจัง พูดได้ว่า ไปไหนไปกัน เข้าใจกันทุกเรื่องจริงๆ


บางเรื่องแค่มองตาก็เข้าใจถึงความรู้สึกเพื่อนแล้วล่ะ 

กว่าจะมาเรียนครู :: ตั้งแต่เมื่อนานมาแล้วตอนเด็กๆอาชีพครูไม่เคยเข้ามาอยู่ในสมองของฉัน

เลยทีเดียว555 เมื่อชีวิตอยู่ในช่วงม.5 ซึ่งเป้นช่วงที่ใกล้ชีวิตเด็กแอดเข้ามาทุกที ตอนนั้นใน

สมอง จะเรียนไรล่ะ?? มีตัวเลือกมาในความคิด 2 3 อย่าง ครู พยาบาล(พยาบาลเฉยๆไม่เอาน่ะ

ต้องมียศด้วย ฮ่าๆ) และตำรวจหญิง ซึ่งพอใกล้เวลาเข้ามา ตำรวจหญิงโดนพ่อสกัดดาวรุ่งไป

ตั้งแต่ยังไม่สมัครสอบเลย 5555 ก็มีตัวเลือกให้ตัวเอง คือ ครูและ พยาบาลเหล่าทัพ

ซึ่งตอนนั้นฉันรอเลือกแอดมิดชั่่นกลางอยู่ พร้อมๆกัน ก็ได้สมัครสอบ พยาบาลเหล่าทัพ

ไป 3เหล่า คือ ทหารอากาศ ทหารบก และตำรวจ ซึ่งผลประกาศ



ปรากฏว่า ฉันติดพยาบาลทหารบกและพยาบาลตำรวจ ตอนนั้น


ดีใจมากๆๆ ไปสัมภาษณ์ ไปตรวจร่างกาย ซึ่งอันนี้มันสุดๆๆจริงๆเท่าที่


เคยเจอมา แต่ไม่กล้าเล่าจริงๆว่าเจออะไรมาบ้าง มันน่าอายมาก ><" 

หลังจากประกาศผลฉันคอยถามตัวเองตลอดเวลาในช่วงการตัดสิน



ใจว่าจะยืนยันสิทธิ์ที่พยาบาลเหล่าทัพดีหรือไม่ค่อยถามตัวเองตลอด


ว่า ระหว่างครู กับพยาบาล อย่างไหนที่ใช่ตัวเราที่สุดซึ่งทั้ง 2 อาชีพนี้ 


ต่างก็มีเกียรติ และเป็นอาชีพที่ถือว่าเป็นผู้ให้และเสียสละ ซึ่งฉัน


อยากทำงานที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ให้กับสังคม ซึ่งตอนนั้นปู่ฉันป่วย


หนักเข้ารพ. ฉันได้ไปเห็นชีวิตการทำงานของพยาบาล ว่าดำเนินไป


อย่างไร ฉันแอบคิดในใจว่า มันอาจไม่ใช่ตัวเราจริง แต่ในใจ คือถ้าไม่


เอาที่นี้ฉํนก็จะเสียดายและเสียใจมากๆ กว่าจะผ่านแต่ละด่านแต่ละ


ขั้นตอนของเหล่าทัพมาได้ มันทรหดจริงๆค่ะ และเมื่อผลแอดประกาศ


ออกมา ฉันติดครูฟิสิกส์ มศว 

และนี้ก็คือสิ่งที่ฉันอยากได้ด้วยล่ะสิ ตอนนั้นคือนอนไม่หลับเลยจริงๆ



ว่าจะเลือกแบบไหน เพราะนี้คือการตัดสินใจเลือกหน้าที่การทำงาน


ของเราซึ่งไม่ใช่แค่ 4 ปี 5 ปี.ในมหาลัย

แต่นั้นคือทั้งชีวิตของเรา และฉันก็ได้ตัดสินใจเลือกที่จะเรียนครู 



เหตุผลที่ตอนนั้นตัดสินใจเลือกครูก็คือ ฉันจะได้กลับไปทำงานที่บ้าน 


ได้ดูแลพ่อแม่ผู้ที่ดูแลเรามาตั้งแต่แบเบาะ เพื่อตอบแทน


บุญคุณท่าน ต่อมา อาชีพครูเป็นอาชีพที่น่ายกย่องและฉันก็มีครูคน



หนึ่งที่ทำให้รู้สึกประทับใจในตัวท่านทั้งการสอน การวางตัว การ


พูดจา ครูคนนี้ ทำให้ฉันรู้สึกว่า มีท่านเป็นแรงบรรดาลใจ

ที่จะเรียนในอาชีพนี้ และไม่เคยรู้สึกเสียดายหรือเสียใจกับการตัดสิน

ใจครั้งนั้นเลย

ภูมิใจที่สุดที่ได้มาเรียนครู มศว !! และในอนาคตฉันก็อยากจะกลับ



ไปทำงานเป็นคุณครูที่ดีสอนให้ลูกศิษย์เปนคนเก่งและคนดีของ


สังคม เพราะการสอนให้คนเป็นคนเก่งนั้นว่ายากแล้วสอนให้

คนเป็นคนดีนั้นยากกว่า







เมื่อก่อนฉันเคยนั่งก้มลงกราบคุณครู ณ สถานที่นี้ หน้าเสาธงที่บรรจุเด็กนักเรียนกว่า 4000คน

และวันหนึ่งฉันจะไปเป็นคุณครูที่ศิษย์รักและเคารพ แบบที่ฉันรักและเคารพครูที่อยู่เบื้องหน้าของฉัน

จะกลับมาตอบแทนเรื่องราวดีๆที่ทำให้ฉันเติบโตมาจากโรงเรียนแห่งนี้ โรงเรียนพัทลุง จังหวัดพัทลุง



อาจจะยาวไปหน่อย แล้วพบกันใหม่ บ๊าย บายยยยย